ตอนที่ 20 หลี่หมินซาน / พ่อท้อแดงน่าหม่ำ

นี่มันบริเวณเชิงเขา ?  

 

นางมาอยู่ที่นี่ได้เช่นไร ?  

 

โอ๊ะ..เดี๋ยวนะ..นางย้อนทบทวน จึงนึกขึ้นได้ว่านางถีบซือถูเย่ไหลจนตกน้ำ จากนั้นก็ขโมยอาภรณ์ของเขามา แล้วนางก็หลงทาง จนกระทั่งช่วยชายแปลกหน้าไว้

 

“เอาล่ะ ๆ .. ข้ารู้แล้ว..หนุ่มหล่อ.. นี่..น้ำของเจ้า !”

 

เฟิ่งจื่อเหยามองไปโดยรอบ นางไม่แลเห็นแหล่งน้ำใด ๆ  ในเมื่อไม่มีแหล่งน้ำ นางก็นึกถึงนกขึ้นมาได้ นางมองซ้ายมองขวา แล้วจัดการสอยนกลงมาอีกตัว เช่นนั้นก็เอาเลือดนกให้เขากินแทนก็แล้วกัน

 

อย่างไรก็ตาม เขาสูญเสียเลือดไปมาก การได้ดื่มเลือดนกจะช่วยบำรุงพละกำลังไปด้วยในตัว

 

ชายแปลกหน้าดื่มเลือดนกจนเกลี้ยงไม่เหลือแม้สักหยด ทั้งที่นัยน์ตาของเขายังคงปิดสนิท

 

ครึ่งชั่วยาม (1 ชั่วโมง) ถัดมา ในที่สุด เฟิ่งจื่อเหยาก็เห็นเขาค่อย ๆ ลืมตาขึ้น นัยน์ตาแบบนี้ คืออันใดกัน นัยน์ตาของเขาแวววาวราวแก้วผลึก ร้อนแรงราวกับจะเผาไหม้หัวใจคนมองให้หลอมละลาย สว่างไสวจนบดบังทั้งดวงตะวัน และจันทราให้แลดูหม่นหมอง !

 

อา..ดูเหมือนการสละผ้าเช็ดหน้าผ้าไหมของนางมาทำแผลให้เขาจะไม่เสียเปล่า !

 

หล่อบาดใจเหลือเกิน !

 

ใบหน้าหล่อเหลาสมบูรณ์แบบ จมูกตรงเป็นสัน นัยน์ตาเรียวเล็ก ริมฝีปากโค้งน่าหลงใหล ดูเซ็กซี่ ราวดอกซากุระบาน รวมเครื่องหน้าที่บ่งบอกถึงความหล่อเหลาราวเทพบุตร หล่อเกินจะบรรยาย ควรเรียกว่าหล่อเหลาแบบชาย หรืองดงามแบบหญิงดี

 

เอาเป็นว่า ไม่ว่าจะหญิงหรือชาย หากเจอคนผู้นี้คงอดมิได้ที่จะตกหลุมรัก !

 

“ขอบใจเจ้าที่ช่วยชีวิตข้า ไม่ทราบว่า พอจะบอกนามของแม่นางได้หรือไม่ ?”

 

ชายหนุ่มยกมือขึ้นโบกหน้าดวงตาของนาง ที่ตกตะลึงงันไปแล้วด้วยเสน่ห์เด็ดขาดบาดใจของเขา

 

“ข้ามีนามว่าเฟิ่งจื่อเหยา..แล้วท่านล่ะ ?”

 

นางจ้องลึกลงไปในดวงตาของเขาอย่างคลั่งไคล้ พลางคิดกับตัวเองในใจว่า ผู้ชายอะไร นัยน์ตาคมสวย ใบหน้าหล่อเหลา ! นางอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายเอื๊อก

 

“หลี่หมินซาน”

 

เอ่ยแล้ว เขาก็ใช้แขนยันร่างตนเองขึ้น จากนั้นก็ไขว้ขานั่งขัดสมาธิ สูดลมหายใจยาว

 

“ฟังเหมือนชื่อคนเกาหลีเลย !”

 

เฟิ่งจื่อเหยาทวนชื่อหลี่หมินซานในใจอีกสองสามครั้ง จนได้ข้อสรุปที่กล่าวมา

 

“เฮ้อ..เมื่อคืนข้าไม่ได้กลับบ้าน ท่านพ่อของข้าต้องเป็นห่วงข้ามากแน่ ๆ !”

 

เฟิ่งจื่อเหยากัดริมฝีปากตัวเองพร้อมกับถอนหายใจ

 

“แม่นาง..เจ้าไม่เบื่อหรอกหรือที่นั่งพูดกับตัวเอง ?” หลี่หมินซานกล่าวจบก็หลับตาลง

 

“ข้า…นี่..หลี่หมินซาน..ข้าคือคนที่ช่วยชีวิตท่านไว้นะ ดูที่ข้อมือของข้าสิ  เมื่อเช้า..ข้าเชือดข้อมือตนเองเพื่อรินเลือดให้ท่านดื่มเห็นหรือไม่ !”

 

แท้ที่จริง บาดแผลของเฟิ่งจื่อเหยาเกิดจากความซุ่มซ่ามของนาง ขณะขว้างหินใส่นกป่า หากแต่ยามนี้เฟิ่งจื่อเหยากลับยกมันขึ้นเป็นข้ออ้าง

 

“กระไรนะ ? เจ้า.. เจ้ามิได้ให้น้ำแก่ข้าหรอกหรือ ?”

 

หลี่หมินซานลืมตาขึ้นมองข้อมือของเฟิ่งจื่อเหยา จากนั้นก็นิ่งอึ้ง

 

“นี่…ท่านลองมองไปรอบ ๆ สิ ท่านเห็นแม่น้ำ หรือลำธารแถวนี้บ้างหรือไม่ ?”

 

เฟิ่งจื่อเหยาย่นคิ้ว การโกหกเป็นเรื่องง่ายสำหรับนางอยู่แล้ว โชคดีที่นางได้เลือดจากนกป่า และแม้ว่าแท้จริงแล้วนางจะให้เขาดื่มเลือดนก แต่เรื่องอะไรที่นางจะพูดความจริงเล่า

 

“ไม่…ไม่จริง…”

 

หลี่หมินซานรู้สึกว่าตนเองกำลังตกอยู่ในอาการงงงัน พูดไม่ออก สายตาที่เขามองเฟิ่งจื่อเหยาเต็มไปด้วยความเสียใจ

 

“แม่นาง..ข้าขอโทษ… ” 

 

ตั้งแต่เล็กจนเติบใหญ่.. นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเอ่ยคำขอโทษสตรีผู้หนึ่ง

 

“ในเมื่อข้าเป็นผู้ช่วยชีวิตท่าน ! เช่นนั้นท่านควรต้องสำนึกในบุญคุณของข้า และจดจำไว้ด้วยว่า ต้องปฏิบัติต่อข้าดี ๆ ! เข้าใจหรือไม่ !”

 

เฟิ่งจื่อเหยากล่าว พลางคิดในใจว่ามื้อเช้านี้ควรจะกินอะไรดีนะ

 

“แม่นางเฟิ่ง..เช่นนี้ดีหรือไม่ ข้าจะให้เงินเจ้าสักก้อน จากนั้นเจ้าก็เดินทางลงเขาไปหาโรงเตี๊ยมเพื่อหาอะไรกิน ?”

 

หลี่หมินซานมองบาดแผลของตน เขาพบว่าเฟิ่งจื่อเหยาได้ทำแผลให้อย่างเรียบร้อย ยามนี้เขาต้องพยายามรวบรวมพลังฉี เพื่อให้แข็งแกร่งพอที่จะเดินทางกลับบ้านอย่างปลอดภัย

 

“ฟังดูดีนะ หากแต่ข้าไม่รู้จักทางลงเขาน่ะสิ !”

 

แม้ว่านี่จะเป็นเพียงภูเขาลูกเล็ก  ๆ แต่ยามนี้ เฟิ่งจื่อเหยาไม่รู้จักเส้นทางเลย !

 

“แม่นางเดินตรงไปทางทิศนี้  ก็จะเห็นสะพานไม้ไผ่ เมื่อข้ามสะพานไม้ไผ่ไปได้ เจ้าก็จะเห็นทางลงเขา นี่…หนึ่งร้อยเหรียญเงิน เชิญแม่นาง..รับไว้ !”

 

หลี่หมินซานย่นหัวคิ้ว ขณะหยิบเงินออกมาจากภายในแขนเสื้อที่เปื้อนเลือดของเขา

 

“ตกลง..ข้าจะรับมันไว้ ! อ้อ..นี่..เป็นเสื้อผ้าสะอาด…เป็นอาภรณ์ของพี่ชายข้า เสื้อผ้าของท่านสกปรกมาก อีกทั้งเต็มไปด้วยเลือด หากทางการมาเห็นท่านในสภาพเช่นนี้คงดูไม่ดีแน่ ท่านควรเปลี่ยนชุดก่อนออกเดินทาง ! เอ้านี่ ..รับไว้”

 

เฟิ่งจื่อเหยารับเงินก้อนนั้นมาอย่างไม่เกรงใจ จากนั้นก็ส่งมอบชุดผ้าไหมสีส้มของซือถูเย่ไหลให้กับหลี่หมินซาน พร้อมรอยยิ้ม

 

“เอาล่ะ ข้าจะถือว่าข้าซื้อเสื้อผ้าพวกนี้ ด้วยเงินร้อยเหรียญนั่น..ก็แล้วกัน !”

 

หลี่หมินซานมองใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มของเฟิ่งจื่อเหยา ใบหน้านั้นงดงามสดใสราวดอกไม้บาน  นี่เป็นครั้งแรกในรอบยี่สิบเอ็ดปีของเขาที่มองสตรีด้วยความตื่นตะลึง หญิงสาวที่อยู่เบื้องหน้าเขา แน่นอนว่านางคือความงดงามอย่างไม่ต้องสงสัย คิ้วของนางดูคล้ายภาพวาด ใบหน้าของนางน่ารักราวเทพธิดา ขนตายาว ๆ ของนางปลายโค้งงอน น่าดึงดูดใจ ใบหน้ารูปไข่ของนางเนียนละมุนราวหยกเนื้อดี ริมฝีปากนุ่ม ๆ เล็ก ๆ ของนางแวววาวสวยงาม แต่สิ่งที่ทำให้เขาตกตะลึงที่สุด ก็คือนัยน์ตาที่เป็นประกายสุกใส และความฉลาดเฉลียวของนาง

 

“ท่านจะว่าเช่นนั้นก็ได้ !”

 

เฟิ่งจื่อเหยาขยิบตาทำท่าทางทะเล้น

 

“แม่นางเฟิ่ง เจ้าอย่าเพิ่งไป ! ข้าได้ยินเสียงฝีเท้าของใครบางคนกำลังมาที่นี่ …”

 

สีหน้าของหลี่หมินซานเปลี่ยนไปอย่างฉับพลัน เขารีบลากตัวเฟิ่งจื่อเหยาไปหลบซ่อนหลังพุ่มไม้ด้วยความกังวล พร้อมกับปิดปากของนางไว้ อีกทั้งจุ๊ปากเตือนนางให้เงียบเสียง

 

***จบตอน หลี่หมินซาน / พ่อท้อแดงน่าหม่ำ***

Novel
Novel
Novel