นี่มันบริเวณเชิงเขา ?
นางมาอยู่ที่นี่ได้เช่นไร ?
โอ๊ะ..เดี๋ยวนะ..นางย้อนทบทวน จึงนึกขึ้นได้ว่านางถีบซือถูเย่ไหลจนตกน้ำ จากนั้นก็ขโมยอาภรณ์ของเขามา แล้วนางก็หลงทาง จนกระทั่งช่วยชายแปลกหน้าไว้
“เอาล่ะ ๆ .. ข้ารู้แล้ว..หนุ่มหล่อ.. นี่..น้ำของเจ้า !”
เฟิ่งจื่อเหยามองไปโดยรอบ นางไม่แลเห็นแหล่งน้ำใด ๆ ในเมื่อไม่มีแหล่งน้ำ นางก็นึกถึงนกขึ้นมาได้ นางมองซ้ายมองขวา แล้วจัดการสอยนกลงมาอีกตัว เช่นนั้นก็เอาเลือดนกให้เขากินแทนก็แล้วกัน
อย่างไรก็ตาม เขาสูญเสียเลือดไปมาก การได้ดื่มเลือดนกจะช่วยบำรุงพละกำลังไปด้วยในตัว
ชายแปลกหน้าดื่มเลือดนกจนเกลี้ยงไม่เหลือแม้สักหยด ทั้งที่นัยน์ตาของเขายังคงปิดสนิท
ครึ่งชั่วยาม (1 ชั่วโมง) ถัดมา ในที่สุด เฟิ่งจื่อเหยาก็เห็นเขาค่อย ๆ ลืมตาขึ้น นัยน์ตาแบบนี้ คืออันใดกัน นัยน์ตาของเขาแวววาวราวแก้วผลึก ร้อนแรงราวกับจะเผาไหม้หัวใจคนมองให้หลอมละลาย สว่างไสวจนบดบังทั้งดวงตะวัน และจันทราให้แลดูหม่นหมอง !
อา..ดูเหมือนการสละผ้าเช็ดหน้าผ้าไหมของนางมาทำแผลให้เขาจะไม่เสียเปล่า !
หล่อบาดใจเหลือเกิน !
ใบหน้าหล่อเหลาสมบูรณ์แบบ จมูกตรงเป็นสัน นัยน์ตาเรียวเล็ก ริมฝีปากโค้งน่าหลงใหล ดูเซ็กซี่ ราวดอกซากุระบาน รวมเครื่องหน้าที่บ่งบอกถึงความหล่อเหลาราวเทพบุตร หล่อเกินจะบรรยาย ควรเรียกว่าหล่อเหลาแบบชาย หรืองดงามแบบหญิงดี
เอาเป็นว่า ไม่ว่าจะหญิงหรือชาย หากเจอคนผู้นี้คงอดมิได้ที่จะตกหลุมรัก !
“ขอบใจเจ้าที่ช่วยชีวิตข้า ไม่ทราบว่า พอจะบอกนามของแม่นางได้หรือไม่ ?”
ชายหนุ่มยกมือขึ้นโบกหน้าดวงตาของนาง ที่ตกตะลึงงันไปแล้วด้วยเสน่ห์เด็ดขาดบาดใจของเขา
“ข้ามีนามว่าเฟิ่งจื่อเหยา..แล้วท่านล่ะ ?”
นางจ้องลึกลงไปในดวงตาของเขาอย่างคลั่งไคล้ พลางคิดกับตัวเองในใจว่า ผู้ชายอะไร นัยน์ตาคมสวย ใบหน้าหล่อเหลา ! นางอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายเอื๊อก
“หลี่หมินซาน”
เอ่ยแล้ว เขาก็ใช้แขนยันร่างตนเองขึ้น จากนั้นก็ไขว้ขานั่งขัดสมาธิ สูดลมหายใจยาว
“ฟังเหมือนชื่อคนเกาหลีเลย !”
เฟิ่งจื่อเหยาทวนชื่อหลี่หมินซานในใจอีกสองสามครั้ง จนได้ข้อสรุปที่กล่าวมา
“เฮ้อ..เมื่อคืนข้าไม่ได้กลับบ้าน ท่านพ่อของข้าต้องเป็นห่วงข้ามากแน่ ๆ !”
เฟิ่งจื่อเหยากัดริมฝีปากตัวเองพร้อมกับถอนหายใจ
“แม่นาง..เจ้าไม่เบื่อหรอกหรือที่นั่งพูดกับตัวเอง ?” หลี่หมินซานกล่าวจบก็หลับตาลง
“ข้า…นี่..หลี่หมินซาน..ข้าคือคนที่ช่วยชีวิตท่านไว้นะ ดูที่ข้อมือของข้าสิ เมื่อเช้า..ข้าเชือดข้อมือตนเองเพื่อรินเลือดให้ท่านดื่มเห็นหรือไม่ !”
แท้ที่จริง บาดแผลของเฟิ่งจื่อเหยาเกิดจากความซุ่มซ่ามของนาง ขณะขว้างหินใส่นกป่า หากแต่ยามนี้เฟิ่งจื่อเหยากลับยกมันขึ้นเป็นข้ออ้าง
“กระไรนะ ? เจ้า.. เจ้ามิได้ให้น้ำแก่ข้าหรอกหรือ ?”
หลี่หมินซานลืมตาขึ้นมองข้อมือของเฟิ่งจื่อเหยา จากนั้นก็นิ่งอึ้ง
“นี่…ท่านลองมองไปรอบ ๆ สิ ท่านเห็นแม่น้ำ หรือลำธารแถวนี้บ้างหรือไม่ ?”
เฟิ่งจื่อเหยาย่นคิ้ว การโกหกเป็นเรื่องง่ายสำหรับนางอยู่แล้ว โชคดีที่นางได้เลือดจากนกป่า และแม้ว่าแท้จริงแล้วนางจะให้เขาดื่มเลือดนก แต่เรื่องอะไรที่นางจะพูดความจริงเล่า
“ไม่…ไม่จริง…”
หลี่หมินซานรู้สึกว่าตนเองกำลังตกอยู่ในอาการงงงัน พูดไม่ออก สายตาที่เขามองเฟิ่งจื่อเหยาเต็มไปด้วยความเสียใจ
“แม่นาง..ข้าขอโทษ… ”
ตั้งแต่เล็กจนเติบใหญ่.. นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเอ่ยคำขอโทษสตรีผู้หนึ่ง
“ในเมื่อข้าเป็นผู้ช่วยชีวิตท่าน ! เช่นนั้นท่านควรต้องสำนึกในบุญคุณของข้า และจดจำไว้ด้วยว่า ต้องปฏิบัติต่อข้าดี ๆ ! เข้าใจหรือไม่ !”
เฟิ่งจื่อเหยากล่าว พลางคิดในใจว่ามื้อเช้านี้ควรจะกินอะไรดีนะ
“แม่นางเฟิ่ง..เช่นนี้ดีหรือไม่ ข้าจะให้เงินเจ้าสักก้อน จากนั้นเจ้าก็เดินทางลงเขาไปหาโรงเตี๊ยมเพื่อหาอะไรกิน ?”
หลี่หมินซานมองบาดแผลของตน เขาพบว่าเฟิ่งจื่อเหยาได้ทำแผลให้อย่างเรียบร้อย ยามนี้เขาต้องพยายามรวบรวมพลังฉี เพื่อให้แข็งแกร่งพอที่จะเดินทางกลับบ้านอย่างปลอดภัย
“ฟังดูดีนะ หากแต่ข้าไม่รู้จักทางลงเขาน่ะสิ !”
แม้ว่านี่จะเป็นเพียงภูเขาลูกเล็ก ๆ แต่ยามนี้ เฟิ่งจื่อเหยาไม่รู้จักเส้นทางเลย !
“แม่นางเดินตรงไปทางทิศนี้ ก็จะเห็นสะพานไม้ไผ่ เมื่อข้ามสะพานไม้ไผ่ไปได้ เจ้าก็จะเห็นทางลงเขา นี่…หนึ่งร้อยเหรียญเงิน เชิญแม่นาง..รับไว้ !”
หลี่หมินซานย่นหัวคิ้ว ขณะหยิบเงินออกมาจากภายในแขนเสื้อที่เปื้อนเลือดของเขา
“ตกลง..ข้าจะรับมันไว้ ! อ้อ..นี่..เป็นเสื้อผ้าสะอาด…เป็นอาภรณ์ของพี่ชายข้า เสื้อผ้าของท่านสกปรกมาก อีกทั้งเต็มไปด้วยเลือด หากทางการมาเห็นท่านในสภาพเช่นนี้คงดูไม่ดีแน่ ท่านควรเปลี่ยนชุดก่อนออกเดินทาง ! เอ้านี่ ..รับไว้”
เฟิ่งจื่อเหยารับเงินก้อนนั้นมาอย่างไม่เกรงใจ จากนั้นก็ส่งมอบชุดผ้าไหมสีส้มของซือถูเย่ไหลให้กับหลี่หมินซาน พร้อมรอยยิ้ม
“เอาล่ะ ข้าจะถือว่าข้าซื้อเสื้อผ้าพวกนี้ ด้วยเงินร้อยเหรียญนั่น..ก็แล้วกัน !”
หลี่หมินซานมองใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มของเฟิ่งจื่อเหยา ใบหน้านั้นงดงามสดใสราวดอกไม้บาน นี่เป็นครั้งแรกในรอบยี่สิบเอ็ดปีของเขาที่มองสตรีด้วยความตื่นตะลึง หญิงสาวที่อยู่เบื้องหน้าเขา แน่นอนว่านางคือความงดงามอย่างไม่ต้องสงสัย คิ้วของนางดูคล้ายภาพวาด ใบหน้าของนางน่ารักราวเทพธิดา ขนตายาว ๆ ของนางปลายโค้งงอน น่าดึงดูดใจ ใบหน้ารูปไข่ของนางเนียนละมุนราวหยกเนื้อดี ริมฝีปากนุ่ม ๆ เล็ก ๆ ของนางแวววาวสวยงาม แต่สิ่งที่ทำให้เขาตกตะลึงที่สุด ก็คือนัยน์ตาที่เป็นประกายสุกใส และความฉลาดเฉลียวของนาง
“ท่านจะว่าเช่นนั้นก็ได้ !”
เฟิ่งจื่อเหยาขยิบตาทำท่าทางทะเล้น
“แม่นางเฟิ่ง เจ้าอย่าเพิ่งไป ! ข้าได้ยินเสียงฝีเท้าของใครบางคนกำลังมาที่นี่ …”
สีหน้าของหลี่หมินซานเปลี่ยนไปอย่างฉับพลัน เขารีบลากตัวเฟิ่งจื่อเหยาไปหลบซ่อนหลังพุ่มไม้ด้วยความกังวล พร้อมกับปิดปากของนางไว้ อีกทั้งจุ๊ปากเตือนนางให้เงียบเสียง
***จบตอน หลี่หมินซาน / พ่อท้อแดงน่าหม่ำ***
Powered By SK REALTY+